ปวดประจำเดือน เรื่อง ต้องระวังของผู้หญิง!!
คุณผู้หญิงทุกคน คงเคยประสบกับการปวดประจำเดือน บ้างก็ทนได้บ้างก็ทนไม่ไหว ต้องพึ่งยาบรรเทาปวด เพื่อไม่ให้อาการปวดท้องเข้ามาบั่นทอนการใช้ชีวิตประจำวัน หลายคนคงเคยคิดถามอยู่ในใจว่าปวดท้องแบบที่เป็นอยู่นี่เป็นเรื่องปกติ หรือกำลังมีความผิดปกติใดเกิดขึ้นกับร่างกายกันแน่ ประจำเดือน คือเลือดที่ออกจากโพรงมดลูกเป็นรอบๆ ห่างกันทุก 28 วันบางคนก็มาเร็วหรือช้ากว่านั้น ผู้หญิงโดยเฉลี่ยจะเริ่มมีประจำเดือน ประมาณ12-13 ปี โดยช่วง 1-2 ปีแรก ที่เริ่มมีประจำเดือน จะมาไม่สม่ำเสมอเนื่องจากการทำงานของรังไข่ยังไม่ค่อยสมบูรณ์ จึงทำให้ไข่ตกไม่สม่ำเสมอ
ทำไมจึงมีอาการปวดประจำเดือน
โดยปกติแล้วการปวดประจำเดือนนั้นเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนซึ่งส่วนใหญ่มักจะเกิดกับเด็กผู้หญิงที่เริ่มมีประจำเดือน โดยจากมีอาการ
ปวดในช่วงแรกและจะปวดลดน้อยลง แต่ถ้าหาคุณผู้หญิงท่านใด ที่มีอาการ ปวดประจำเดือนมาก คือ เดิมปวดเล็กน้อยพอเวลาผ่านไปมีอาการปวดมากขึ้นเรื่อยๆ สามารถสงสัยเบื้องต้นได้ว่าอาจเกิดการผิดปกติ
โรคที่อาจเกิดเมื่อมีการปวดประจำเดือนที่ผิดปกติ
เมื่อมีอาการปวดประจำเดือนมากหรือผิดปกติ อาจเป็นที่มาของการเกิดโรคต่างๆ ดังนี้
1. เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) สามารถแบ่งเป็น 3 ชนิดย่อย คือ
- ช๊อกโกแลตซีสต์ : จะเกิดเฉพาะที่รังไข่ จึงเรียกว่าช๊อกโกแลตซีสต์
- จุดเลือดออกในอุ้งเชิงกราน : ส่องกล้องเข้าไปดูในท้องว่ามีจุดเลือดออกหรือไม่ บางครั้งใช้การตรวจภายในช่วย เพื่อดูจุดที่เจ็บการใช้อัลตร้าซาวด์ ไม่สามารถเห็นได้
- ชนิดที่อยู่ในกล้ามเนื้อมดลูก : มีอาการปวดท้องมาก เลือดออก กะปริบกะปรอย หรือออกมากผิดปกติ อาจต้องได้รับการผ่าตัด
2. เนื้องอกของกล้ามเนื้อมดลูก ก้อนเนื้องอกแทรกอยู่ในกล้ามเนื้อ มดลูก เวลา มีประจำเดือน มดลูกจะบีบตัว เพื่อขับเลือดออกมา
3. ปีกมดลูกอักเสบ เกิดจากการติดเชื้ออุ้งเชิงกรานอักเสบ มีอาการตกขาวบ่อย เป็นทั้งช่วง ที่มีหรือไม่มีประจำเดือน ถ้ามีประจำเดือนอาการปวดท้องจะมากขึ้น
อย่างไรถึงจะเรียนกว่าประจำเดือนมามาก
คำว่ามากมากในที่นี้ คือ จำนวน วัน เลือด อาจจะมามากกว่าเดิม ซึ่งโดยปกติประจำเดือนของผู้หญิงจะมา 3/7 วัน โดยเฉลี่ยวันละ 80 ซีซี อาจสังเกตได้ง่าย จากการใช้ผ้าอนามัย ถ้าปริมาณ การใช้เฉลี่ย 3-5 ผืน ในช่วงวันที่มามากคือปกติ หรือสังเกตได้จากลักษณะของประจำเดือนมาเป็นก้อนเลือดหรือน้ำ ถ้าเป็นก้อนเลือดแสดงว่าเลือดออกเยอะประจำเดือนมามาก ซึ่งปริมาณ ที่เยอะนี้อาจจะบ่งบอกได้ว่ามีโรคอยู่
การมาแบบกระปริบกระปอย คือ การมีประจำเดือนที่อาจมากกว่า 1 ครั้ง/เดือนมาครั้ง ละ 2-3 วัน และหยุดไป ผ่านไปก็มีอีกการที่ประจำเดือนมาแบบกะปริบกะปรอยนั้น ยังต้องตรวจจำแนกอีกว่าเป็นการตั้งครรภ์หรือโรคทางนรีเวช หากไม่ใช่การตั้งครรภ์ อาการส่วนใหญ่จะเกิดจากฮอร์โมนที่สร้างจากรังไข่ผิดปกติมีติ่งเนื้อในโพรงมดลูก สามารถตรวจหาอาการผิดปกติ ได้ด้วยอัลตราซาวด์ ส่องกล้องดูโพรงมดลูก
คุณหมอเส็ง ได้แนะนำผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่ทานได้คือ
- ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เอ็กซ์ 1 (X1) หรือเอ็กซ์ (X2)
สูตรใดก็ได้ ครั้งละ 30-40 cc. (เช้า-เย็น)
- ยาบรรเทาอาการปวดเมื่อย ครั้งละ ครึ่งขวด (เช้า-เย็น)
ควรทานติดต่อกัน 10-15 วัน อาการปวดมดลูกจะน้อยลงหรือดีขึ้น
ทานติดต่อกันเรื่อยๆ อาการจะหายไป
สตรีที่มีอาการปวดมดลูก คันช่องคลอด ให้ทาน
- ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เอ็กซ์ 1 (X1) หรือเอ็กซ์ (X2)
สูตรใดก็ได้ ครั้งละ 30-40 cc. (เช้า-เย็น)และ
- ขมิ้นขัน 3 เม็ด วันละสองครั้ง เช้า - เย็น
คุณหมอเส็ง แนะนำ สมุนไพรหมอเส็งที่ช่วยท่านได้
นัดจองคิวตรวจกับคุณหมอเส็ง ฟรี! 

ติดต่อ
คุณอ้อ (รุ่งนภา) รหัสตัวแทน A358985001
Tel: 0839824166 พร้อมรับสาย 24 ชม.
สอบถาม / สั่งซื้อ ผลิตภัณฑ์ / นัดตรวจ / ADD LINE ได้เลยค่ะ